วันอาทิตย์ที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

เป้าหมายสำคัญมาก ..

เป้าหมายสำคัญมาก เพราะเป้าหมายเป็นตัวกำหนดวิธีการและเส้นทางการเดิน รวมไปถึงกำหนดความ "อึด" ของใจที่จะสู้หรือไม่สู้กับอุปสรรคอย่างไร
........

คนใกล้ชิดที่รักใคร่กันแล้วมีจริตเป็นบัณฑิตอยู่บ้างมักตั้งคำถามกับเราว่า วัดพระธรรมกายจะสร้างใหญ่ไปทำไม จะทำศาลาใหญ่โตไปทำไม ...โธ่พี่ เอ้าดูภาพ พี่ก็เห็นอยู่ ขนาดสร้างใหญ่ขนาดนี้ ที่จะเดินยังไม่ค่อยจะมี นั่งปฏิบัติธรรมกันตรงทางเดินบ้าง ระเบียงบ้าง ขืนเล็กกว่านี้แลัวจะรองรับคนที่กระหายใคร่ธรรมะได้เพียงพอได้อย่างไร...

เอ้า แล้วบวชทีเป็นหมื่นเป็นแสน มีช่องดาวเทียมเป็นของตนเอง ทำไมไม่อยู่เงียบๆ สงบๆ เหมือนวัดอื่นเขา.... พี่..พี่เป็นอาจารย์ก็น่าจะรู้ อย่างลูกศิษย์ที่เราสอน ก็มีกันมาให้เรารับมือหลากหลายรูปแบบ บางคนดื้อโฉ่งฉ่าง มาแบบนี้ก็เห็นพี่สั่งสอนลูกศิษย์ตรงๆ บางคนมาดื้อเงียบ พี่ก็ใช้จิตวิทยาให้เด็กเกิดศรัทธาคิดได้เอง บางคนมีโทสะจริตหนักๆ เราก็ใช้เมตตาธรรมเข้าช่วย...เป้าหมายก็เพื่อให้ลูกศิษย์เราเป็นคนดี รักดี รักเรียนไม่ใช่หรือ... วัดก็เช่นเดียวกัน เป้าหมายเดียวกันแต่ต่างรูปแบบออกไปด้วยเหตุที่คนในโลกมีความแตกต่างหลากหลาย แล้ววัดจะมีรูปแบบเดียวกันได้อย่างไร...จริตใครเหมาะกับรูปแบบไหนก็ขวนขวายในรูปแบบนั้น ก็เท่านั้นเอง

มันจำเป็นด้วยหรือที่แตกต่างแล้วเราต้องมาตำหนิจับผิดเพ่งโทษกัน

น้องเป็นศิษย์ธรรมกายค่ะพี่ เชื้อจับผิดเพ่งโทษอันธพาลที่เคยมีมาก็โดนหลวงพ่อหลวงพี่ขจัดกำราบไปซะมากแล้ว ยิ่งมากล่าวร้ายกล่าวเท็จ ทำทีมงานแตกแยก ทำสงฆ์แตกแยก โอย กลัวบาปกรรม แค่คิดยังหนาว..โอปตัปปะมันผุดขึ้นมาเองในใจอัตโนมัติ... เห็นใครแสดงอันธพาลออกมาให้เห็นทางทางกายและวาจา..บอกตรงๆ น้องนึกแอบหมิ่นในใจ ไพล่ไปถึงว่าผู้นั้นเป็นลูกศิษย์ใครหนอ..ครูบาอาจารย์ช่างไม่สอนไม่ขัดเกลากันเสียบ้าง

พี่ไม่ต้องเชื่อน้องหรอก เดินไปพิสูจน์ด้วยตัวเองกันเลยดีกว่า...คนที่ว่าศิษย์ธรรมกายงมงาย ลองคิดย้อนกลับดูว่า แล้วคนที่ไม่ยอมก้าวเข้ามาพิสูจน์ เอาแต่รับฟังข้อมูลผิดๆ ด้านเดียว..อย่างนี้ก็เรียกงมงายในความเชื่อของตัวเองเช่นกัน..

หลวงพ่อธัมมชโยท่านกล่าวมโนปณิธานของท่านชัดเจน และตอกย้ำมโนปณิธานกับลูกศิษย์อยู่บ่อยๆ มโนปณิธานของท่านยิ่งใหญ่และลึกซึ้ง...มโนปณิธานเป็นสิ่งบอกเป้าหมาย เป้าหมายเป็นตัวกำหนดวิธีการและเส้นทางการเดิน...น้องของพี่คนนี้แสดงจุดยืนชัดเจนว่าเดินตามรอยเส้นทางการสร้างบารมีของมหาปูชนียาจารย์วิชชาธรรมกาย น้องก็คนธรรมดาเหมือนพี่นี่ล่ะ... แสวงหาสิ่งดีที่สุดให้กับตนเองเสมอ...

เหลือแต่พี่ล่ะค่ะ...เมื่อไหร่จะวางความคิดเดิมๆ ก้าวมาสัมผัสด้วยตนเอง..น้องธรรมดาคนนี้ยินดีเดินไปข้างๆ พร้อมตอบข้อสงสัยของพี่อย่างไม่รู้เหน็ดเหนื่อย...

...วางได้เมื่อไหร่ แล้วเราไปด้วยกันค่ะ...


ดร.พรชณิตว์ แก้วเนตร
รองอธิการบดีฝ่ายกิจการต่างประเทศและลูกค้าสัมพันธ์
มหาวิทยาลัยสวนดุสิต

วันเสาร์ที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

โครงการบ้านกัลยาณมิตร... หยั่งรากสันติสุขสู่ใจคน

โครงการบ้านกัลยาณมิตร
พ.ศ.2547-ปัจจุบัน

เปิดบ้านตัวเองให้คนมานั่งสวดมนต์ฝึกสมาธิร่วมกัน โดยนิมนต์พระอาจารย์มาเป็นผู้นำ..หลักการง่ายๆ มีเพียงเท่านี้ แต่ผลที่ได้ยิ่งใหญ่มหาศาล บวกกับวิธีการที่ต้องใช้สติปัญญาไม่น้อยทีเดียว

บ้านเราหลังเล็กๆ สมาชิก 4 คน รู้คุณค่าในบุญและรู้ตัวดีว่าในภพชาติอดีตคงชวนคนทำบุญมาน้อย ชาตินี้จึงญาติน้อยเหลือเกิน..ทุ่มเทเปิดบ้านกัลยาณมิตรในทุกๆ วันเสาร์ เวลา 14.00-16.00 น. ให้ชาวบ้านละแวกบางบัวทองได้มานั่งปฏิบัติธรรม ฟังธรรมร่วมกัน นับเป็นช่วงเวลาที่มีคุณค่าที่สุดช่วงหนึ่งเลยทีเดียว

ใครๆ ในโลกนี้ก็มีทุกข์ด้วยกันทั้งนั้น คนรวยก็ทุกข์แบบคนรวย คนจนก็ทุกข์แบบคนจน เราได้รู้จักเพื่อนร่วมทุกข์อีกเยอะเลย ในขณะเดียวกันก็ได้ขัดเกลาตัวเองไปด้วย..ก็แหม จะไปเป็นผู้นำบุญเค้า  ถ้าบุญน้อยกว่าก็ไม่เรียกผู้นำบุญสิ ..จริงไหม ..เขียนถึงบรรทัดนี้ ก็ให้นึกถึงป้ากีผู้มีฐานะเพราะขายวัสดุก่อสร้าง แต่ลูกหลานไม่รักไม่เอาใจใส่..ทุกข์ไปจนถึงกระดูกเลย... และคุณป้าอีกท่านนึง มากับหลานสาวตัวน้อยผู้ซึ่งพ่อแม่ของเด็กทิ้งไป คุณป้ามีอาชีพเป็นกระเป๋ารถเมล์ อันนี้เรียกว่าทุกข์เพราะขาดทรัพย์...ผู้คนล้วนต้องการธรรมะยึดเหนี่ยวจิตใจ ต้องการคำสอนให้ตนได้คลายจากทุกข์ได้บ้าง และยิ่งมีผู้มาชี้นำทางให้ออกจากกองทุกข์ได้ คงเป็นสิ่งประเสริฐสุด... เราภาคภูมิใจในการทำหน้าที่กัลยาณมิตรให้กับผู้คนมาก มันไม่ง่ายเลยเพราะต้องใช้กำลังใจที่มากกว่า

คนที่ไม่คุ้นกับการสร้างความดีในระดับมหภาค ไม่มีทางเข้าใจว่าพระเดชพระคุณหลวงพ่อธัมมชโยและวัดพระธรรมกายทำอะไร คนที่นึกออกและมองปัญหาพระพุทธศาสนาในปัจจุบันออก จึงเข้าใจว่า สิ่งที่วัดพระธรรมกายทำนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ไม่ใช่เรื่องที่ตนเองได้ประโยชน์ แต่เพื่อยังประโยชน์ให้สังคมโดยแท้...ไม่เชื่อ ท่านก็ลองเปิดบ้านตนเองเป็นบ้านกัลยาณมิตรดู...ต้องการ consult บอกได้นะจ๊ะ...เราทำมาทุกหน้าที่แล้ว ตั้งแต่ระดับออก QR code ใช้ ไอทีในการลงทะเบียนผู้มาปฏิบัติธรรม โทรศัพท์พูดคุยติดตามชักชวนจนเป็นเหมือน
ลูกหลานที่คุ้นเคย จัดขนมเลี้ยงผู้มาปฏิบัติธรรม ไปจนถึงวิ่งซื้อน้ำแข็ง..สนุกและได้บุญเนื้อๆ ติดตัวไปจริงๆ

โครงการบ้านกัลยาณมิตรเป็นเพียงหนึ่งในโครงการของผู้ที่มีมโนปณิธานอันยิ่งใหญ่ ที่ตั้งไว้ระดับหยั่งรากแห่งสันติสุขไปสู่ใจมวลมนุษยชาติทุกคนทั่วโลก ผู้ที่มีมโนปณิธานที่ยิ่งใหญ่ต้องเป็นผู้ที่มีใจใหญ่ มองเห็นอุปสรรคเป็นเพียงสิ่งธรรมดาๆ ที่ผ่านเข้ามาให้แก้แล้วก็ผ่านเลยไป...ไม่มีเวลามาเพ่งโทษจับผิดหรือเหน็บแนมผู้ใด แล้วก็เป็นธรรมดาอยู่เองของการทำงานใหญ่ที่จะมีคนไม่เห็นด้วยหรือขัดเคืองใจ.... ความจริงเท่านั้น ความจริง ของจริง ดีจริง พิสูจน์ได้จริงเท่านั้นที่ทำให้ธรรมกายยืนหยัดมาได้เกือบครึ่งศตวรรต

ทองแท้ไม่เกรงกลัวต่อไฟที่มีผู้มาจุดเผา ทองแท้ไม่กลัวไฟ มีแต่จะยิ่งสุกปลั่งแม้ในยามที่ผู้มือถือไฟโดนไฟที่ตนเองถือเผาไหม้ไปแล้วก็ตาม!!!

ดร.พรชณิตว์ แก้วเนตร
รองอธิการบดีฝ่ายกิจการต่างประเทศและลูกค้าสัมพันธ์
มหาวิทยาลัยสวนดุสิต

วันอาทิตย์ที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2559

"ยิ่งล้วงยิ่งลึก ยิ่งลึกยิ่งใส ยิ่งใสยิ่งสว่าง ยิ่งสว่างยิ่งล้วง"...วันนี้คุณล้างห้องน้ำแล้วหรือยัง?

วันนี้คุณล้างห้องน้ำแล้วหรือยัง?

ท่านผู้อ่านล้างห้องน้ำที่บ้านครั้งล่าสุดเมื่อไหร่คะ...สำหรับเด็กวัดอย่างเราล้างทุกวันตามที่ได้รับการปลูกฝังมาจากวัดพระธรรมกาย ให้สารภาพก็ได้ว่า ก่อนจะมาฝากตัวเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อนั้น ไม่เค้ยไม่เคยล้างห้องน้ำมาก่อน ยิ่งให้ล้วงลึกระดับมิดข้อศอกล่ะก็...ไม่เคยนึกว่าจะทำจริงๆ

การสอนลูกศิษย์ล้างห้องน้ำของวัดพระธรรมกายเป็นการสอนขั้น Extream ไม่มีที่ใดเหมือน เราเองดูแลสายงานโรงแรม เดินเข้าออกโรงแรมห้าดาวจนส้นสูงสึก เป็นคณะกรรมการมาตรฐานงานโรงแรมระดับประเทศ บอกได้เลยว่าแม้มาตรฐานงาน Housekeeping (งานแม่บ้าน) ของโรงแรมระดับห้าดาวหกดาว ก็ยังไม่เท่าของที่วัดสอน อันนี้เรื่องจริงขอยืนยัน !!!....

เราเป็นเด็กวัดที่โชคดีได้อยู่ในยุคที่ต้นตำรับคือคุณยายอาจารย์มหารัตนอุบาสิกาจันทร์ ขนนกยูง ท่านยังแข็งแรง การสืบสอนเรื่องวัฒนธรรมการล้างห้องน้ำเป็นไปในบรรยากาศคึกคักสนุกสนานและการบอกขานถึงอานิสงส์แห่งการล้วงลึกคอห่านนั้นสร้างกำลังใจยิ่งนักในการล้างห้องน้ำ ทิฐิมานะในใจ ความถือดีหยิ่งทะนงในตน มันค่อยๆ คลายตัวลงอย่างไม่น่าเชื่อ คุณยายสอนให้ล้างห้องน้ำไปมองกลางไปด้วย มองกลางในที่นี้ไม่ใช่มองกลางห้องน้ำ แต่หมายถึงมองเข้าไปที่กลางท้องหรือกลางกายตนเอง ตรึกธรรมะองค์พระดวงแก้วไปด้วยนั่นเอง...ไม่เคยมีครั้งใดที่ครูบาอาจารย์เราทั้งพระเดชพระคุณหลวงพ่อ คุณยาย ท่านจะสอนเรื่องอื่นเลย ขึ้นต้นด้วยการล้างห้องน้ำ ลงท้ายด้วยเรื่องธรรมะเสมอ..

วัดพระธรรมกายปลูกฝังศีลธรรมผู้คนผ่านกิจวัตรประจำวัน เน้นหนักในการพัฒนาตนเองให้ดียิ่งๆ ขึ้น ใครจะคิดว่า ล้างห้องน้ำให้เป็น ล้างให้สะอาด มันจะขัดเกลาความเป็นคนให้ดีขึ้นได้ สิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องลึกซึ้ง หากไม่มีครูบาอาจารย์มาชี้นำบอกให้คิดให้ตรองดู ..สติปัญญามดตะนอยอย่างเราคงคิดไม่ออก...ก็ระดับความใจใสต่างกันปัญญาย่อมต่างกันอย่างนี้...

เรามองดูกลุ่มคนที่กำลังมีความพยายามดิสเครดิตวัดและหลวงพ่อ ก็ได้แต่นึกขำในใจ ก็แหม...ช่างกล้าทำกับคนที่มีคุณธรรมสูงได้เพียงนี้ คนกลุ่มนั้นสมควรกลับไปฝึกล้างห้องน้ำบ้านตนให้สะอาดเสียก่อน ค่อยคิดหาญกล้ามาทำอย่างอื่น เฮ้อ...ลูกศิษย์ตัวเล็กๆ อย่างเราเห็นแล้วขัดใจจริงๆ...

ดร.พรชณิตว์ แก้วเนตร
รองอธิการบดีฝ่ายกิจการต่างประเทศและลูกค้าสัมพันธ์
มหาวิทยาลัยสวนดุสิต



"ยิ่งล้วงยิ่งลึก ยิ่งลึกยิ่งใส ยิ่งใสยิ่งสว่าง ยิ่งสว่างยิ่งล้วง"

วันอังคารที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2559

อยากเล่าให้ฟัง...เกร็ดเล็กๆ ของวัดพระธรรมกายที่ฉันรู้จัก

วันหนึ่งในปี 2555

เราได้รับโทรศัพท์จากเพื่อนผู้เป็นกัลยาณมิตรกันมาตั้งแต่วัยเรียนมหาวิทยาลัย ว่าอยากให้เราได้กราบถวายงานงานหนึ่งให้พระเดชพระคุณหลวงพ่อ ... ขอให้เราไปกราบท่านโดยเร็วที่สุด

ด้วยความปลื้มปิติใจที่ว่า หากสติปัญญาที่เราพอจะมีอยู่บ้างได้นำมาใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนา มันคงเป็นการดีมิใช่น้อย

ท่านผู้อ่านคิดว่า หลวงพ่อให้เราทำอะไรคะ
...........
...........
ไม่มีใครคาดคิดแน่ๆ เพราะงานที่ว่านั้นคือ.....

"เอ็งไปทำวิจัย 'ผ้าขี้ริ้ว' ให้ที ..อยากรู้ว่าผ้าเช็ดพื้น เช็ดโต๊ะ เช็ดจาน เช็ดองค์พระ ...นั้น แต่ละอย่างมันควรมีเนื้อผ้าอย่างไร ขนาดเท่าไหร่ เอ็งไปหางานวิชาการที่เอ็งถนัดมาซัพพอร์ท เมื่อรู้แล้วจะได้เอามาสอนลูกศิษย์ ให้มันทำความสะอาดกันได้อย่างผู้รู้จริง...."

เล่นเอาด๊อกเตอร์ด้าน OD นั่งอึ้งอยู่พักนึงทีเดียว

นี่คือครูบาอาจารย์ของเราที่เรายอมถวายหัวเป็นศิษย์อย่างศิโรราป...ท่านสอนให้เรารู้อะไรรู้ให้จริง ท่านสอนเสมอว่า คุณยายมหารัตนอุบาสิกาจันทร์ ขนนกยูง ผู้ให้กำเนิดวัดพระธรรมกายนั้น ท่านสร้างวัดด้วยเน้นหลักความสะอาด เพราะความสะอาดทำให้ศีลเราบริสุทธิ์ และความสะอาดยังเป็นต้นตอของคุณธรรมในตัวอีกร้อยแปดอย่าง...

....เรารับงานแล้วกลับมาตั้งหลักวางแผนการทำวิจัย "ผ้าขี้ริ้ว" ต่อที่บ้าน

ท่านผู้อ่านคะ..มันไม่ง่ายเลย สำหรับสิ่งใกล้ตัวที่เราใช้อยู่ทุกวันแต่เราไม่เคยได้นำมาพิจารณา

...และท้ายที่สุด เราก็ถวายงานชิ้นนี้ต่อพระเดชพระคุณหลวงพ่อได้สำเร็จ นับเป็นความภาคภูมิใจและเป็นบุญในใจที่ชุ่มเย็นมาจนถึงขณะนี้ เมื่อใดที่เห็นผ้าขี้ริ้วในวัดที่วางตามจุดต่างๆ หรือแม้แต่ "ผ้าสว่าง" ที่ใช้กันอยู่ ทั้งขนาด เนื้อผ้าและวิธีการตัดเย็บ ทำให้เราย้อนไปนึกถึงวันที่เราพลิกตำราทั้งไทยทั้งเทศ บินไปประเทศใดก็เฝ้าแต่จะไปดูเนื้อผ้าขี้ริ้ว อ่านตำราอเมริกาที่นักทำความสะอาดระดับแชมป์เขียนไว้ จนนำมาประมวลเป็นบทสรุปถวายงานต่อพระเดชพระคุณหลวงพ่อได้...

นึกขำดี..สมัยเด็กที่มีผู้คนกล่าวว่าวัดพระธรรมกายมีอาวุธอยู่ใต้โบสถ์ ไปค้นดูจริงพบแต่ไม้กวาดไม้ม็อบทำความสะอาด...โธ่ถัง..ระดับความสะอาดต่างกัน วัดนี้สอนลูกศิษย์ให้สะอาดระดับแยกแยะเนื้อผ้าขี้ริ้ว สะอาดต่างกัน ความบริสุทธิ์ของศีลก็ต่างกันนะจ๊ะ...จะบอกให้..


ดร.พรชณิตว์ แก้วเนตร
รองอธิการบดีฝ่ายการต่างประเทศและลูกค้าสัมพันธ์
มหาวิทยาลัยสวนดุสิต


วันอาทิตย์ที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2559

พ.ศ.2534-2559, 25 ปีเต็มแห่งการเรียนรู้ตนเองกับวัดพระธรรมกาย

พ.ศ. 2534-2559
25 ปีเต็มแห่งการเรียนรู้ตนเองกับวัดพระธรรมกาย

แต่ไหนแต่ไรมา เราก็เป็นผู้กำหนดทางเดินชีวิตตนเองมาโดยตลอด ไม่ว่าจะเรียนอะไร ที่ไหน ทำกิจกรรมอะไร เพราะความที่มีนิสัยผู้นำและแม่พ่อเลี้ยงมาแบบให้อิสระทางความคิด เราจึงเป็นผู้ชอบแสวงหา ชอบอ่าน  ชอบฟัง และชอบคิด

นับเป็นโชคสองชั้นที่วัดพระธรรมกายและครูบาอาจารย์ในวัดได้เข้ามามีส่วนในการหล่อหลอมความคิดของเราให้แกร่งและถูกทาง สามารถเดินมาสู่แนวหน้าของสังคมได้อย่างมีคุณธรรมนำทาง นำคำสอนของพระบรมศาสดามาแก้ทุกข์ได้ตลอด...จึงไม่หน้าแปลกใจที่เราจะก้าวหน้าในหน้าที่การงานอย่างรวดเร็ว ดำรงตำแหน่งคณบดีเมื่ออายุ 34 และรองอธิการบดีเมื่ออายุยังไม่เต็ม 40 ได้รับรางวัลลูกดีเด่นในปี 2557 และ รางวัลสตรีตัวอย่างในปี 2558 แม้กระนั้น...ครูบาอาจารย์ก็มิวายจะสอนให้เรามีแนวคิดที่ถูกทางอีกว่า ตำแหน่งหน้าที่การงานมีไว้สร้างบารมีให้ยิ่งยวดขึ้น หากมียศถาบรรดาศักดิ์แต่กลับไม่ใช้ให้ถูกทาง มันยิ่งนำความเสื่อมมาให้ต่อตัวเรา

เราแปลกใจแต่ไม่ทุกข์ใจ ที่คนในสังคมมักตั้งคำถามกับวัดพระธรรมกายโดยที่ตนเองยังไม่เคยเข้ามาสัมผัส แปลกใจที่สื่อมวลชนนำเสนอข่าวบิดเบือนอันมีผลอย่างมากต่อความไขว้เขวของผู้คนในสังคม ในความแปลกใจมีความเสียดายโอกาสของคนเหล่านั้นเข้ามาด้วย และสำหรับบางคนที่ใช้ความไม่รู้ของตนว่ากล่าววัดและพระสงฆ์องคเจ้าด้วยถ้อยคำรุนแรง เราเสียใจแทนด้วยร่ำเรียนมาว่าผลแห่งวิบากกรรมที่ทำกับพระผู้ปฏิบัติดีผู้ไม่โต้ตอบคนพาลนั้น เป็นเช่นไร

เราคงไม่มีถ้อยคำอธิบายว่าวัดพระธรรมกายนั้นดีเช่นไร หลวงพ่อธัมมชโยและพระอาจารย์ท่านมีคุณูปการมากเพียงใด..เพราะมันคงเหมือนการพรรณนาคุณความดีของดวงอาทิตย์ที่มีต่อโลกใบนี้ กล่าวเท่าไหร่ก็ไม่หมดง่าย เราเพียงอยากให้ท่านผู้อ่านที่ยังไม่เคยให้โอกาสตนเองในการมาเรียนรู้วัดพระธรรมกายได้ลองเปิดใจเปิดโอกาสให้แก่ตนเอง..วิธีการเช่นไร ท่านผู้มีปัญญาคงแสวงหาเองได้ แต่หากต้องการกัลยาณมิตรสักคนช่วยแนะนำ ได้โปรดอย่าเกรงใจ เรายินดีเป็นอย่างยิ่ง ด้วยต้องการทดแทนคุณพระพุทธพระธรรมพระสงฆ์ อันเป็นสรณะอันสูงสุดให้กับตัวเราแม้ในยามความตายมาเยือนตรงหน้า

ดร.พรชณิตว์ แก้วเนตร
รองอธิการบดีฝ่ายการต่างประเทศและลูกค้าสัมพันธ์
มหาวิทยาลัยสวนดุสิต